วัดบางคลาน หรือ วัด หิรัญญาราม เป็นวัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน หมู่บ้านวังตะโก และวัดนี้ก็ยังเรียกขานกันว่า “วัดวังตะโก” ลึกเข้าไปทางแม่น้ำสานเก่า ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นแม่น้ำพิจิตร โดยสร้างขึ้นในราวปี พ.ศ.2377 โดยที่หลวงพ่อท่านได้ย้ายมาจากวัดคงคาราม (วัดบางคลานใต้) เมื่อเข้ามาจำพรรษาก็ได้ปลูกกุฏิด้วยไม้ไผ่มุงด้วยหลังคาแฝกอยู่เพียงรูปเดียว พร้อมกับนำกิ่งโพธิ์มาปักไว้ที่ริมตลิ่ง (หน้าพระอุโบสถ) แล้วอธิษฐานว่า “ถ้าท้องถิ่นนี้จะเจริญรุ่งเรืองต่อไป ก็ขอให้โพธิ์ต้นนี้งอกงามแผ่กิ่งก้านสาขาเป็นนิมิตดีต่อไปด้วย” เหตุการณ์ได้เกิดขึ้นดังตามคำอธิษฐานเอาไว้อย่างน่าประหลาด ต่อมาก็ได้ปรากฏเป็น “วัดวังตะโก” หรือ วัดบางคลาน และได้เจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นวัดที่ชาวบ้านในละแวกวัดมาร่วมพิธีทางศาสนากันอย่างเนืองแน่น และต่อมาก็มีการสร้างเสนาสนะขึ้นความเจริญก็ขึ้นมาตามลำดับ เป็นที่ศึกษาทางวัฒนธรรมและของข้าวของเครื่องใช้วัตถุมงคลของหลวงพ่อเงิน เมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เครื่องปั้นดินเผา สิ่งของเก่าโบราณที่ขุดพบในเมืองนครไชยบวรมีคุณค่า และของโบราณของเก่าที่นับวันจะหายากและสูญหายชาวบ้านก็ได้นำมาบริจาคให้กับ “พิพิธภัณฑ์นครไชยบวร” โดยทางวัดบางคลานได้เก็บรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติ ให้ชนรุ่นหลังที่มากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อเงินได้ชมและศึกษาเพื่อให้ได้ทราบถึงประวัติและเรื่องราวต่างๆของยุคสมัย
ประวัติของหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ บางคลาน วัดวังตะโก เพชรน้ำเอกเมืองพิจิตร ชาติกำเนิด เกิดเมื่อวันศุกร์ ที่ 16 กันยายน พ.ศ.2351 เดือน 10 ปีมะโรง บิดามีนามว่า อู๋ เป็นชาวบ้านบางคลาน มารดามีนามว่า ฟัก เป็นชาวบ้านแสนตอ จ.กำแพงเพชร ซึ่งตรงกับสมัย หลวงพ่อเงินมีที่น้องร่วมสายโลหิตทั้งหมด 6 คน ท่านเป็นคนที่ 4 ของครอบครัว
หลวงพ่อเงิน เมื่อเป็นเด็กมีอายุ 5 ขวบ ได้ไปอยู่ที่กรุงเทพฯ โดยนายช่วงผู้เป็นครูพาไป ลำนำไปผากไว้ที่วัดตองปุ (วัดชนะสงคราม) เพื่อศึกษาเล่าเรียน เมื่อหลวงพ่อเงินท่าสมีอายุได้ 12 ปี จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร บวชเป็นสามเณรตนถึงอายุครบบวชเป็นพระภิกษุ จึงได้เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดชนะสงคราม ได้ฉายาว่า “พุทธโชติ” เมื่ออุปสมบทเป็นที่เรียบร้อยแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดชนะสงคราม เพื่อปฏิบัติธรรมวินัยทางวิปัสสนากรรมฐาน ท่านอยู่ได้ 3 พรรษา ขณะที่จำพรรษาอยู่ที่วัดชนะสงครามจึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อศึกษาวิทยาคมเพื่อศึกษาศิลปะวิทยาคมตลอดจนเรียนวิปัสสนาธุระ จนมีความแก่กล้า จึงได้มุ่งศึกษาเรียนพุทธาคมจาก “หลวงพ่อโพธิ์ วัดวังหมาเน่า” เมื่อเรียนจบแล้วจึงกลับบ้านเกิดเมืองนอนที่ อ.โพทะเลไปจำพรรษา ณ วัดคงคาราม (วัดบางคลานใต้) บ้านบางคลาน ต.บางคลาน อ.บางคลาน จ.พิจิตร ท่านจำพรรษาอยู่ได้พรรษาเดียว ต่อมาก็ได้ย้ายไปจำพรรษาจากวัดวังคงคาราม ไปอยู่ที่วัดวังตะโก ซึ่งลึกเข้าไปทางลำน้ำแควพอจิตรเก่า ได้สร้างกฏิ วิหาร โบสถ์ และเสนาสนะจนสมบูรณ์ วัดวังตะโก หรือวัดหิรัญญาราม พระอารามแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อประมาณปีพ.ศ.2377 มีประชาชนมากราบไหว้มิได้ขาด เพื่อถวายตัวเป็นศิษย์ ขอให้ท่านรักษาโรคให้ และมาขอเครื่องรางของขลัง หลวงพ่อท่านทรงเมตตาต่อทุกๆคนที่เข้ามาหาท่าน โดยเฉพาะชาวเรื่อที่ขึ้นร่องสัญจรไปมา พวกพ่อค้าแม้ค้า ได้มาจอดเทียบท่าเรือที่หน้าวัดก็จะมากราบท่านขอน้ำมนต์ไปดื่ม ไปอาบ หลวงพ่อเงินท่าน ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์และสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณฝ่ายวิปัสสนา
หลวงพ่อเงิน ท่านได้มรณภาพ ด้วยโรคชรา และโรคริดสีดวงทวาร เมื่อวันศุกร์ เดือน 10 แรม 11 ค่ำ ปีมะแม เวลา 05.00 น. ตรงกับวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2462 รวมสิริอายุได้ 111 ปี พรรษา 90 การมรณภาพในครั้งนั้น วัดวังตะโก – วัดท้ายน้ำ ชาวพิจิตรและศิษย์ยานุศิษย์ตลอดจนสาธุชนคนทั่วไปที่เลื่อมใสศรัทธาในตัวหลวงพ่อเงิน ได้โศกเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง เป็นการสูญเสียพระคณาจารย์ที่ยิ่งใหญ่และพระเถระที่เป็นกำลังสำคัญของพระพุทธศาสนารูปหนึ่ง และท่านเป็นพระเถระที่บริบูรณ์ไปด้วยศีลจารวัตร และมีสมาธิอันมั่นคง โดยเฉพาะเวทมนต์คาถา และวิปัสสนาธุระ ท่านก็มีความเชี่ยวชาญและแก่กล้าในวิทยาคม ท่านได้สร้างคุณงามความดีไว้ให้ลูกหลานได้ศึกษาและสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
เมื่อ หลวงพ่อเงิน ท่านได้มรณภาพลงทางวัดจึงได้จัดการสร้างรูปหล่อเหมือนหลวงพ่อเพื่อ ให้ลูกศิษย์และผู้ที่เคารพนับถือเข้ามาท่องเที่ยวและได้เข้าไปกราบไหว้สักการะบูชา อธิษฐานขอพร ซึ่งได้ประดิษฐานที่ชั้น 2 ศาลาพิพิธภัณฑ์นครไชยบวร และที่ด้านหน้ามีมณฑปสร้างขี้นอย่างสวยงามมีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อเงิน พุทธโชติ ประดิษฐานอยู่ ส่วนพิพิธภัณฑ์ อยู่ชั้นล่างเป็นที่แสดง พระพุทธรูป พระพิมพ์ต่างๆ เครื่องใช้สอยและวัตถุมงคลต่างๆที่ท่านได้สร้างเอาไว้ ซึ่งเปิดให้เข้าชมทุกวัน และสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ส่วนใหญ่แล้วไม่ทราบ คือ พระเจดีย์ที่เก็บอัฐิธาตุของหลวงพ่อเงิน สร้างขึ้นอยู่ด้านข้างพระอุโบสถ และใกล้กับริมแม่น้ำน่าน หรือแม่น้ำพิจิตร เป็นเขตอภัยทาน มีปลาชุกชุม และท่านที่ไปก็ไปทำบุญให้อาหารปลา ปล่อยปลาต่างๆ ปล่อยหอย ปล่อยเต่า เพื่อเป็นการสเดาะเคราะห์ เพื่อเป็นการช่วยเหลือสัตว์ให้เป็นอิสระและตามความเชื่อว่าปล่อยไปแล้วจะรุ่งเรือง ไม่ติดขัด ทำการใดก็คล่อง
หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เมื่อครั้งที่ท่านนั้นยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้ให้ความเมตตาโดยไม่เลือกชั้นวรรณะเหมือนกันทุกระดับชั้น มีมีประชาชนให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก มีคนมาหาท่านตลอดและไม่ขาดสาย มาถวายตัวขอเป็นลูกศิษย์ มาขอเครื่องมงคลไปบูชา มาให้ท่านรักษาโรคภัยไข้เจ็บ เมื่อท่านมรณภาพแล้วท่านก็ยังเมตตาให้ความช่วยเหลือสังเกตจากที่มีผู้คนมากราบไหว้ขอพรและสำเร็จ โดยมีการนำสิ่งของมาแก้บนตามเรื่องที่เมาบนไว้เป็นตามคำอธิฐาน
คาถาบูชาหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
ตั้ง นโม 3 จบ
อะกะ อะธิ อะธิ อะกะ ธิอะ กะอะ
วันทามิ อาจาริยัญจะ หิรัญญะ นามะกัง ถิรัง
สิทธิ ทันตัง มหาเตชัง อิทธิ มันตัง วะสาทะรัง
(สิทธิ พุทธัง กิจจัง มะมะ ผู้คนไหลมา นะชาลิติ
สิทธิ ธัมมัง จิตตัง มะมะ ข้าวของไหลมา นะชาลิติ
สิทธิ สังฆัง จิตตัง มะมะ เงินทองไหลมา นะชาลิติ
พระฉิมพลี จะ มหาลาภัง ภะวันตุเม)
วัดบางคลาน หรือ วัดวังตะโก ตั้งอยู่ที่ ต.บางคลาน อ.โพธิ์ทะเล จ.พิจิตร
1 ความคิดเห็น:
Wynn Resorts Names Julie Cameron-Doe as New Chief
Wynn Resorts Ltd. 서귀포 출장샵 announced 계룡 출장안마 today that Julie 김천 출장샵 Cameron-Doe will be the 전라남도 출장안마 new Chief 순천 출장안마 Executive of Wynn Resorts, Limited, the
แสดงความคิดเห็น